ผู้เยี่ยมชม

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552

HDTV คืออะไร และแนวทางการเลือกใช้ HDTV


ต่อจากบทความก่อนนะครับ จะมาพูดถึง HDTV (Hi-Definition TV)โดยให้รายละเอียดเพิ่มขึ้นครับ..

HDTV คือทีวีแบบใหม่ที่สามารถรับและแสดงสัญญาณภาพระดับ Hi-def (ภาพรายละเอียดความคมชัดสูง) ที่ส่งออกมาจากเครื่องเล่นประเภทต่างๆ ได้ครับ ในกรณีของเครื่องเล่นเกมส์ PS3 จะปล่อยสัญญาณ Hi-def ออกมา 3 แบบเป็น 720p/1080i/1080p (1080P เฉพาะช่องสัญญาณ HDMI) ส่วน Xbox 360 จะปล่อยสัญญาณที่ดีสุดผ่านทางช่องคอมโพเนนท์ที่รายละเอียดเท่ากับ PS3 แต่จะเป็นสัญญาณอนาล็อกต่างกับช่อง HDMI ของ PS3 ที่เป็นดิจิตอล

HDTV แต่ละแบบจะให้คุณภาพของภาพที่ต่างกันไป มีข้อดีและข้อด้อยทุกแบบ อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัวครับ ถ้าให้แนะนำคงเป็นจอแก้วแบบไวด์สกรีนที่รับ HD ได้ครับ ตอนนี้หลายยี่ห้อทำออกมาแข่งกันอยู่ แต่ก็ยังเกินหมื่นขึ้นไป (ราคา 28-34 นิ้วประมาณ 15000-25000) ถ้าเอาแบบต่ำกว่าหมื่นลงมาคงต้องเลือกจอแอลซีดีมอนิเตอร์แทนครับ แต่ขนาดจอจะไม่ใหญ่เท่ากับทีวี (ประมาณ 17-22 นิ้ว)

H ย่อมาจาก High
D ย่อมาจาก Definition

ผมขอเรียกย่อๆ ว่า Hi-Def นะครับ Hi-Def คือ TV แบบใหม่ที่สามารถรองรับการแสดงผลของสัญญาณของภาพระดับ Hi-Def หรือจะเรียกว่า TV ที่สามารถรับภาพที่มีความละเอียดและความคมชัดสูง สามารถรับชมภาพยนตร์หรือวิดีโอที่อัดไว้ด้วยฟอร์แมต Blu-ray และ HD-DVD ซึ่งจะส่งออกมาจากเครื่องเล่นรุ่นใหม่ประเภทต่างๆครับ ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีของเครื่องเล่นเกม PS3 (Playstation3) จะสามารถปล่อย สัญญาณแบบ Hi-Def ออกมา 3 แบบ ซึ่งจะเป็นแบบ 720p/1080i/1080p โดย1080p จะเป็นช่องสัญญาณเฉพาะเรียกว่า HDMI แต่สำหรับ Xbox 360 จะปล่อยสัญญาณที่ดีที่สุดผ่านทางช่อง คอมโพเนนท์ที่รายละเอียด เทียบเท่ากับ PS3 แต่จะเป็นสัญญาณอนาล็อก (Analog) ต่างกับช่อง HDMI ของ PS3 ที่เป็นดิจิตอล (Digital)


HDTV แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อจะให้คุณภาพของภาพที่ต่างกันออกไปนะครับ ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีข้อดีและข้อด้อยอยู่ด้วยกันทุกแบบ แนะนำให้ เลือกเป็นแบบจอแก้วไวด์สกรีน (Wide-Screen) ที่รองรับ HD ได้ครับ ตอนนี้หลายยี่ห้อทำออกมาแข่งกันอยู่ แต่ราคาก็ยังอยู่ในหลัก 10,000 บาทขึ้นไปนะครับ (โดยราคา 28-34” จะอยู่ที่ประมาณ 15,000-25,000บาท)


เคล็ดลับในการเลือกซื้อ HDTV

1. พิจารณาถึงศักยภาพความละเอียดของ HDTV โดยดูที่ตัวเลขตรง Resolution ซึ่งจะแสดงเป็นตัวเลข 2 แบบเช่น 1920 x 1080, 1366 x 768 เป็นต้น โดยตัวเลขส่วนแรกจะเป็นค่าความละเอียดของพิกเซลบนหน้าจอ ส่วนตัวเลขที่ส่วนหลังจะเป็นจำนวนเส้นที่จอภาพนั้นรองรับ (Horizontal Line) ยิ่งตัวเลขสูงภาพที่ได้ก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น

สำหรับ HDTV ให้ดูที่จำนวนเส้นที่รองรับ ค่าตัวเลขที่เหมาะสมอย่างต่ำต้อง 720p หรือ 1080i (ตัว p ย่อมาจาก Progressive Scan ส่วนตัว i ย่อมาจาก Interlaced) ซึ่งรุ่นที่รองรับแบบนี้มีออกมาได้สักระยะแล้ว และรุ่นที่รองรับ 1080p กำลังเริ่มเข้ามา ซึ่งถือว่าเป็นความละเอียดสูงสุดในตอนนี้

2. พยายามเลือกดูทีวีที่เป็นจอไวด์สกรีนสัดส่วน 16:9 ไว้ก่อน เพราะว่าเกมและภาพยนตร์ระดับ Hi-Def ในตอนนี้จะถูกบันทึกมาในรูปแบบไวด์สกรีนทั้งหมด ถ้าคุณไม่มีจอภาพแบบไวด์สกรีนก็เท่ากับว่าคุณพลาดโอกาสในการรับชมภาพแบบเต็มจอไปฟรีๆ

3. ให้แน่ใจว่า HDTV ที่ตั้งใจจะซื้อมีการเชื่อมต่อสัญญาณได้หลายรูปแบบ ถ้าให้ดีควรมีช่อง HDMI/DVI/Component ครบถ้วน

4. ระวังในเรื่องของการไม่เข้ากันของสัญญาณ โดยทีวีรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะมีค่า Native Resolution แสดงไว้ ซึ่งเป็นค่าที่ไว้แสดงผลการรับสัญญาณทั้งหมดที่ทีวีเครื่องนั้นรับได้ (ส่วนใหญ่จะเป็น 720p) ซึ่งสัญญาณทั้งหมดที่เข้ามาจะถูกปรับขึ้นหรือลง เพื่อให้เข้ากับค่า Native Resolution ของเครื่อง ด้วยตัวประมวลผลของทีวีนั้นเอง ถ้าตัวประมวลผลเชื่องช้าก็อาจเกิดการหน่วงของภาพได้ ในขณะที่ Xbox 360 และ PS3 จะส่งสัญญาณแบบ 720p ได้ (รวมถึง Xbox 1 บางเกมด้วย) ทำให้ไม่จำเป็นที่ทีวีแบบ 720p ต้องมาคอยเปลี่ยนสัญญาณอีก แต่ถ้าเป็นเครื่องเกมรุ่นอื่นๆ จะส่งสัญญาณที่ 480i และ 480p ซึ่งใช้ในทีวีแบบปกติ ถ้ากังวลปัญหานี้ก็ให้ยกเครื่องเกมไปที่ร้านขายทีวีพร้อมกับเกมที่ส่งสัญญาณทั้งแบบเก่าและใหม่เพื่อลองทดสอบดูเลยจะดีกว่า

5. ตรวจดูข้อด้อยที่เป็นปัญหาของทีวีแต่ละแบบให้ละเอียด อย่างค่า Response Time ที่ระบุเป็นตัวเลขเช่น 12ms, 8ms ซึ่งเป็นค่าการตอบสนองกับภาพเคลื่อนไหว (ตัวเลขยิ่งต่ำยิ่งดี) ถ้ามากไปอาจทำให้คุณเห็นภาพเบลอจากเงาของภาพขณะเคลื่อนไหวได้ ในกรณีของทีวีแบบ DLP สายตาของคุณอาจมองเห็นสายรุ้งพร่ามัวบนทีวีแบบนี้ได้ คุณต้องลองดูอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะ HDTV ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเปลี่ยนได้บ่อยเหมือนแฟชั่นการเปลี่ยนมือถือ

*อันนี้จะเกี่ยวกับคอเกมส์นะครับ เพราะเราจำเป็น ต้องระวังในเรื่องของการไม่เข้ากันของสัญญาณ โดยทีวีรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะมีค่า Native Resolution แสดงไว้ ซึ่งเป็นค่าที่ไว้แสดงผลการรับสัญญาณ ทั้งหมดที่ทีวีเครื่องนั้นรับได้ (ส่วนใหญ่จะเป็น 720p) ซึ่งสัญญาณทั้งหมดที่เข้ามาจะถูกปรับขึ้น หรือลง เพื่อให้เข้ากับค่า Native Resolution ของเครื่อง ด้วยตัวประมวลผลของทีวีนั้นเอง ถ้าตัว ประมวลผลช้าก็อาจเกิดการหน่วงของภาพได้ แต่ปัญหานี้เครื่องเกมส์รุ่นใหม่เช่น Xbox 360 และ PS3 จะส่งสัญญาณแบบ 720p ได้อยู่แล้ว ทำให้ไม่ จำเป็นที่ทีวีแบบ 720p ต้องมาคอยเปลี่ยน สัญญาณอีก แต่ถ้าเป็นเครื่องเกมรุ่นอื่นๆ ซึ่งจะส่ง สัญญาณที่ 480i และ 480p ซึ่งใช้ในทีวีแบบปกติ

**ศัพท์**
-HDMI เป็นระบบการเชื่อมต่อภาพและเสียงแบบใหม่ครับ ย่อมาจากคำว่า (H)igh (D)efinition (M)ultimedia (I)nterface โดย HDMI จะเชื่อมต่อทั้งสัญญาณภาพและเสียงระบบดิจิตอลแบบไม่มีการบีบอัดข้อมูลไว้ในสายสัญญาณเพียงเส้นเดียว ให้ความคมชัดของภาพ มีความละเอียด มีความคมลึกและให้เสียงที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมา ขั้วต่อของ HDMI to HDMI จะผลิตจากทองแท้ 24 K ด้วยนะครับ ทุกวันนี้ HDMI ถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์ Home Theatre หลายอย่างเช่น พลาสม่าทีวี แอลซีดีทีวี เครื่องเล่นดีวีดี ฯลฯ

ภาพสาย HDMI

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น